Blog นี้สร้างมาเพื่อ เป็นสื่อกลางให้ผู้สนใจในการปฏิบัติ ได้มาศึษาหาความรู้ และ แนะนำสถานที่ปฏิบัติให้แก่ผู้สนใจ และ ช่วยนักปฏิบัติผู้กำลังหลงทาง ให้เจอทางออก และ เข้าถึงซึ่งความเป็นจริงของสภาวะ

28 มกราคม 2565

หลวงปู่สาย วัดหนองสองห้อง

 หลวงปู่สาย วัดหนองสองห้อง

หรือ ท่านพระครูสังวรสุดาภิวัฒน์




ประวัติ

หลวงปู่สาย วัดหนองสองห้อง ตำบลหนองสองห้อง อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร หลวงปู่สาย หรือ พระครูสังวรสุตาภิวัฒน์ นามสกุลเดิม เพชรนิล เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2435 ปีมะโรง บิดาชื่อ สง มารดาชื่อ อุบ อาชีพกสิกรรม มีพี่น้องบิดามารดาเดียวกัน 6 คน ท่านเป็นคนที่ 3 เมื่อเยาว์วัย หลวงปู่ได้เรียนหนังสือกับหลวงปู่นิล วัดตึกมหาชยาราม สมุทรสาคร ทั้งภาษาไทยและภาษาขอม จนมีความรู้ความชำนาญในด้านภาษาไทยเทียบเท่าชั้นประถม 4 ในด้านภาษาขอม ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนจนสามารถจารอักขระลงในใบลานเป็นหนังสือเทศน์ เมื่ออายุได้ 15 ปี ได้บรรพชาเป้นสามเณร ณ วัดตึก โดยมีหลวงปู่นิล เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อได้บรรพชาเป็นสามเณรแล้วได้รับมอบหมายจากหลวงปู่นิล ได้เป็นผู้จารหนังสือเทศน์เป็นภาษาขอมลงในใบลานวันละหลายๆหน้า เพราะหลวงปู่มีความวิริยะอุสาหะในการทำงานเป็นอย่างยิ่ง


ท่านเคยเล่าให้ฟังว่ากิจวัตรของหลวงปู่สมัยเป็นสามเณร เวลาเช้าก็บิณฑบาต เมื่อกลับจากบิณฑบาตก็ถวายการปรนนิบัติอุปัชฌาย์จารย์ แล้วก็เริ่มจารหนังสือขอมลงในใบลานตลอดวัน เว้นระยะฉันเช้าและเพลเท่านั้นจะหยุดพักจำวัดต่อเมื่อ 5 ทุ่มเศษ และตื่นจากจำวัตรเวลาตี 4 ของทุกวัน
อุปสมบท



หลวงปู่อายุได้ 20 ปี ก็เข้ารับการอุปสมบท ณ วัดตึกมหาชยาราม สมุทรสาคร โดยมี หลวงปู่นิล วัดตึก เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากบวชแล้วได้จำพรรษา ณ วัดตึก ได้ 9 พรรษา ก็ได้ทำการลาสิกขาบท เพื่อไปช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพยังภูมิลำเนาเดิม อุปสมบทครั้งที่ 2.......เมื่อหลวงปู่ลาสิกขาบทได้ 7 วัน จะเป็นด้วยบารมีที่หลวงปู่สั่งสมไว้หรือไม่ ท่านได้รับการเข้ารับการอุปสมบทอีกครั้ง เมื่อ 9 เมย. 2468 ณ วัดใหม่โพหัก ตำบลโพหัก อำเภอบางแพ ราชบุรี โดยมีพระอธิการแช่ม วัดดอนเซ่ง เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูธรรมสาทิศ (แม้น) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์ปลื้ม วัดโพหัก เป็นพระอนุสาวนาจารย์

และหลวงปู่ได้มาจำพรรษา ณ วัดหนองสองห้อง ทั้งนี้ทั้งนั้นก่อนที่ท่านจะลาสิกขาครั้งแรก ท่านก็ได้รับการเชิญจาก ทายก ทายิกาให้มาจำพรรษา ณ วัดหนองสองห้องก่อนแล้ว
ความดีพิเศษของหลวงปู่สาย...... โดยปกติหลวงปู่เป็นพระที่เคร่งครัดต่อพระธรรมวินัยเป็นอย่างมาก ตามที่ปรากฎเวลาที่ท่านจะไปทำธุระอะไรก็ตาม แม้จะเป็นภายในวัด ท่านมักจะนุ่งห่มอย่างเรียบร้อยและปฎิปทาอันนี้มิใช่ท่านจะปฏิบัติเฉพาะตัวท่านเอง ยังได้อบรมพระภิกษุสามเณรให้ประพฤติตามด้วย จนได้การยกย่องจากคนทั่วไปว่า พระเณรของหลวงปู่มีความประพฤติดี นุ่งห่มเรียบร้อย ... หลวงปู่เป็นพระที่มีอัธยาศัยอันงาม โอบอ้อมอารีย์ ท่านจะทำกิจของสงฆ์ไม่เคยขาดคือการทำวัตร และท่านจะนำการสวดมนต์ทำวัตรเอง ให้แก่พระภิกษุสามเณร ฌานสมาบัติ


หลวงปู่เป็นพระเถระที่มีฌานสมาบัติสูง มีศิษย์ที่ใกล้ชิดท่านหนึ่งเคยได้ยินได้ฟังกับหูตัวเองว่า .....หลวงปู่เคยถามท่านปลัดพิศาลฯ (อดีตปลัดกระทรางมหาดไทยนับถือท่านมากๆ) ว่า นั่งสมาธิ เป็นไหม ท่านปลัดตอบว่า ท่านนั่งได้ถึงขั้นโอภาส หลวงปู่สายได้ชวนท่านปลัด ให้ไปค้างคืนที่วัดสักคืน ท่านว่าจะพาปลัดฯ ไปเที่ยวสวรรค์ ถ้าหลวงปู่ฯ ไม่มีฌานสมาบัติที่สูง ก็คงทำอย่างนั้นไม่ได้เป็นแน่..... วัตถุมงคลที่นิยมและมีประสบการณ์มากรุ่นหนึ่ง ของหลวงปู่สาย ก็คือ พระเครื่องพันแปดไฟ ท่านสร้างเนื่องในโอกาส แจกศิษย์ที่ไปสงครามอินโดจีนและสงครามเกาหลี ที่เรียกว่า ธาตุพันแปดไฟ นั้น เพราะ หลวงปู่ได้ใช้แผ่นตะกั่วมาลงอักขระปลุกเสกแล้วนำไปหลอม เมื่อหลอมเสร็จ เมื่อแผ่นตะกั่วเย็นก็นำมาลงอักขระอีก แล้วนำไปหลอมใหม่ ทำเช่นนี้เรื่อยๆ จนครบ หนึ่งพันกับแปดครั้ง จึงเรียกว่า พระธาตุ พันแปดไฟ สร้างประมาณปี พ.ศ. 2485-2487 วัดหนองสองห้อง เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในตำบลหนองสองห้อง อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร มีที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ 35 ไร่ 2 งาน 38 ตารางวา วัดนี้สร้างขึ้นมาในปี พ.ศ. 2469 ด้วยความศรัทธาของชาวบ้านในย่านนี้ ซึ่งส่วนใหญ่สมัยนั้นเป็นพื้นที่ทำนาปลูกข้าวพอจัดสร้างวัดแล้วเสร็จได้นิมนต์พระอาจารย์สายหรือต่อมาคือท่านพระครูสังวรสุดาภิวัฒน์ ท่านมาจากวัดตึกมหาชยารามจังหวัดสมุทรสาครในปี พ.ศ. 2474 แต่สันนิษฐานว่าท่านจำพรรษาอยู่วัดใหญ่โพหัก อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี


เมื่อหลวงพ่อสายมาเป็นเจ้าอาวาสแล้วท่านได้สร้างกุฏิเป็นไม้มุงหลังคาจากใกล้ ๆ บริเวณเนินทุ่งนาแล้วมีหนองน้ำอยู่สองหนองน้ำด้วยเหตุผลนี้เชื่อกันเองว่า "หลวงพ่อสายหรือท่านพระครูสังวรสุดาภิวัฒน์" คงให้เป็นชื่อ "วัดหนองสองห้อง" ตามที่ตั้งกุฏิใกล้ ๆ สองหนองน้ำ!!! ชื่อหนองสองห้องก็เรียกกันต่อ ๆ มาคือ บ้านหนองสองห้อง คลองหนองสองห้องเป็นคลองเชื่อมคลองดำเนินสะดวกผ่านสวนผลไม้นานาชนิดไปออกจังหวัดราชบุรีได้ด้วยครับ สำหรับที่นาปลูกข้าวกลายเป็นสวนผลไม้และสวนผักต่าง ๆ ถึงปัจจุบันนี้ หลวงพ่อศิลา หลวงพ่อสายหรือท่านพระครูสังวรสุดาภิวัฒน์ ท่านได้ไปอัญเชิญองค์พระพุทธรูปเรียก "หลวงพ่อศิลา" ที่แกะสลักด้วยหินทรายมาจากในที่ดินวัดร้างที่ว่าการอำเภอบางคนทีจังหวัดสมุทรสงครามกล่าวว่าองค์พระพุทธรูปหลวงพ่อหินทรายหรือหลวงพ่อศิลานั้นแต่เดิมประดิษฐานคู่กันกับองค์พระพุทธรูปหรือหลวงพ่อโตวัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร ริมน้ำคลองดำเนินสะดวกลักษณะหันหลังชนกันชาวบ้านเชื่อกันเองว่าเป็นพระพุทธรูปพี่น้องกันทุกวันนี้วัดหนองสองห้องกับวัดหลักสี่ราษฎร์สโมสรอยู่ไม่ไกลกันมาก หลวงพ่อสายหรือท่านพระครูสังวรสุดาภิวัฒน์ ท่านเป็นพระภิกษุถือปฏิบัติธรรมกรรมฐาน ท่านเก่งเรื่องอักษรขอมหรือภาษาบาลีเขียนลงใบลานสำหรับแสดงพระธรรมเทศนา ปี พ.ศ. ๒๔๘๐ หลวงพ่อสายได้เล็งเห็นความสำคัญในด้านการศึกษาของบุตรหลาน ในพื้นที่หนองสองห้อง ท่านจึงได้เปิดโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๐ อีกด้วย
ปี พ.ศ. ๒๕๐๙ หลวงพ่อสาย ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น "พระครูสังวรสุตาภิวัฒน์" เม ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๙

ปี พ.ศ. ๒๕๑๗ หลวงพ่อสายได้ทำการสร้างพระอุโบสถ แทนพระอุโบสถไม้หลังเดิมที่ชำรุด ให้เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ภายในอุโบสถมีพระประธานพร้อมพระโมคคัลลาน์และพระสารีบุตร หลวงพ่อสาย ปกครองวัดเรื่อยมาจนถึงแก่มรณภาพลงด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๓๐ นับรวมสิริอายุได้ ๙๔ ปี ๘ เดือน ๗ วัน ๖๒ พรรษา

วัดหนองสองห้อง อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อมาถึงวัดแล้ว เริ่มต้นด้วยการเข้ากราบขอพร จุดแรก เข้ามณฑปประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยคือ "หลวงพ่อศิลา" แกะสลักด้วยหินทรายศิลปะสมัยอู่ทองหน้าตักกว้าง 2 เมตร พุทธลักษณะงดงาม จุดที่ 2 พระธาตุเจดีย์ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อสาย(ท่านพระครูสังวรสุดาภิวัฒน์) และกราบสังขารของท่านในโลงแก้ว ไม่เน่าไม่เปื่อย "ท่านที่สนใจและมีความศรัทธาต่อครูอาจารย์พระสุปฏิปันโนผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ คงสรีระสังขารไว้ให้ผู้ปฏิบัติและผู้ศรัทธาในพระศาสนาได้มากราบความดี กราบสังขารท่าน นำมาเพื่อความปิติเพื่อความเป็นสิริมงคล น้อมมาใส่ตัวเป็นเครื่องระลึกได้คร้าบว่า พระพุทธเจ้ามีจริง พระอริยเจ้ามีจริง การปฏิบัติได้ผลจริง ดังสังขารท่านที่คงไว้ให้ชาวพุทธได้เห็น กราบไว้เป็นสรณะและพิจารณาธรรมคร้าบ"

__________________________________________________________________


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม