Blog นี้สร้างมาเพื่อ เป็นสื่อกลางให้ผู้สนใจในการปฏิบัติ ได้มาศึษาหาความรู้ และ แนะนำสถานที่ปฏิบัติให้แก่ผู้สนใจ และ ช่วยนักปฏิบัติผู้กำลังหลงทาง ให้เจอทางออก และ เข้าถึงซึ่งความเป็นจริงของสภาวะ

10 พฤศจิกายน 2564

2 กรกฎาคม 53 โยคีปฏิบัติธรรม




 2 กรกฎาคม 53  


มีโยคี 1 , โยคี 2 , โยคี 3 , โยคี 4 ผู้ปฏิบัติทั้ง 4 มาปฏิบัติที่วัด ทั้งสี่คนเดินทางมาถึงเวลาประมาณบ่ายสี่โมง หลังจากเก็บข้าวของแล้ว พระอาจารย์ให้เริ่มเดิน ๑๐ นาทีนั่ง ๑๐ นาที




วันที่ 2 กรกฎาคม 53 เวลา 17.00 น. ถึง วันที่ 3 กรกฎาคม 53 เวลา 8.00 น.


โยคี 2 เดินนั่งได้สี่ชุด ได้สภาวะดีตอนนั่งมีอาการเหมือนถูกดึงกระชากไปด้านหลัง รู้สึกโล่ง ๆ กว้าง ๆ เหมือนนั่งอยู่คนเดียว 

โยคี เล่าว่าเคยไปปฏิบัติที่อื่นมีอาการง่วง หาวนอนไม่สามารถนั่งได้ต้องเลิกนั่ง แต่มาปฏิบัติที่นี่หลังจากนั่งเสร็จจะรู้สึกสดชื่น ไม่ง่วง ไม่เพลีย 

พระอาจารย์ให้สังเกตดูที่หน้า เมื่อเย็นวานหน้าซีด ๆ เช้านี้กลับหน้าตาผ่องใสไม่ซีดเหมือนเย็นวาน เพราะอำนาจของปิติ 

สอบอารมณ์เสร็จพระอาจารย์ให้ โยคี เพิ่มเวลาเป็นเดิน 20 นาที นั่ง 20 นาที


   โยคี 3 เดินนั่งได้บ้างแต่ยังไม่มีสภาวะเหมือน โยคี 2




     โยคี 4 เดินโอนเอนเหมือนจะล้ม ตอนเดินเห็นเหมือนมีเงาดำ ๆ วูบ ๆ เข้ามาทางตาขวา นั่งก็คิดเยอะ กำหนดพองยุบไม่ได้เลย มีอาการปวดหัวข้างขวาข้างเดียว ปวดถึงท้ายทอยด้านขวาด้านเดียว และจะเป็นเฉพาะตอนนั่งกำหนด เวลาที่ไม่ได้นั่งจะไม่มีอาการปวดหัวข้างเดียว

พระอาจารย์ถามว่า เคยเข้าทรงหรือรับขันธ์อะไรมั้ย โยคี 4 ตอบว่าไม่เคย 

พระอาจารย์ถามต่อว่า พ่อแม่เคยเข้าทรงมั้ย โยคี 4ตอบว่าแม่เคยรับขันธ์ 

พระอาจารย์ว่า ให้อดทนพระอาจารย์จะช่วย




วันที่ 3 กรกฎาคม 53 เวลา 8.00 น. ถึง วันที่ 3 กรกฎาคม 53 เวลา 14.30 น.


      โยคี 2 เดินนั่งได้สามชุดมีอาการถูกดึงกระชากถี่ขึ้น เห็นแสงสว่างเป็นดวงเท่าล้อรถ มีอาการขนลุกด้านขวาด้านเดียว รู้สึกว่าขาที่เดินแนบกับการกำหนดได้ดีมาก ทั้งตอนเดินตอนนั่งไม่ได้ใช้นาฬิกาจับเวลาแต่ตอนเลิกเหมือนตรงเวลา  โยคี ใช้คำว่า “ อืม มันตรงเวลาเกือบยี่สิบนาทีพอดี ”




ถามพระอาจารย์ สงสัยว่า มันรู้ได้อย่างไรว่า ยี่สิบนาทีแล้ว? 

พระอาจารย์ตอบว่า : จิตมันมหัศจรรย์ บ่อย ๆ เราไม่รู้เลยว่าจิตมันทำอะไร ๆ ได้มากขนาดนั้น

สอบอารมณ์เสร็จพระอาจารย์ให้ โยคี ผู้ปฏิบัติ2 เพิ่มเวลาเป็นเดิน 30 นาที นั่ง 30 นาที เพิ่มนั่งหนอถูกหนอ 6 จุด


      โยคี 3 เดินนั่งได้สองชุด พอทำได้ เมื่อก่อนนั่งสามนาทีก็ปวดหลังแล้วมาที่นี่นั่งได้ตั้งสิบนาที พระอาจารย์ให้กำลังใจว่า ค่อยเป็นค่อยไป

     โยคี 4 เดินนั่งได้สองชุด เดินได้ดีขึ้น นั่งไม่มีอาการปวดหัวแล้ว สามารถกำหนดพองยุบได้




วันที่ 3 กรกฎาคม 53 เวลา 15.00 น. ถึง วันที่ 3 กรกฎาคม 53 เวลา 18.00 น.


     โยคี 2 เดินนั่งได้หนึ่งชุด ก่อนเดินนั่ง โยคี คิดว่าการที่อาจารย์ให้กำหนดนั่งหนอถูกหนอ 6 จุด คงจะทำให้ไม่ออกไป (คิด) หรือคิดน้อยลง ตอนเดินจงกรมเสร็จพอมองดูนาฬิกาพอดี 30 นาทีเป๊ะ  ( ไม่ได้ใช้นาฬิกาจับเวลา )  
ไปนั่งกำหนดถูกหนอได้ 3 รอบ โยคี คิดว่า “ เราก็เก่งนะ กำหนดพองหนอ ยุบหนอ นั่งหนอถูกหนอได้ ”

     พอจะเริ่มกำหนดถูกหนอ รอบที่ 4 มันไปไม่ได้ กำหนดถูกที่สะโพกขวามันก็หายไป ไม่สามารถไปสะโพกซ้ายได้ 
พยายามเริ่มที่สะโพกขวาหลายครั้งก็ได้แค่สะโพกขวาแล้วหายไปทุกครั้ง ไปสะโพกซ้ายไม่ได้จนถึงเวลาเลิกนั่ง 

โยคี 2คิดว่า “ เราเป็นอะไรไป ไม่มีสมาธิหรือเปล่า ” โยคี 2พูดด้วยตัวเองว่า “ สังเกต การนั่งชุดนี้ไม่ได้ถูกดึงกระชากไปข้างหน้าบ้าง ข้างหลังบ้างเหมือนการนั่งทุกชุดที่ผ่านมา ”




     พระอาจารย์อธิบายว่า มันเป็น ภังคญาณ ญาณที่ 5 ญาณเข้าสู่ความดับ เป็นภังคญาณที่เข้มชัดมาก เมื่อเข้าสู่ภังคญาณเต็มญาณ ปิติก็หายไป การนั่งชุดนี้จึงไม่มีอาการผงก  หรือถูกดึงกระชาก พระอาจารย์ให้ถูกหนอเพิ่มอีก 4 จุด เป็นทั้งหมด 10 จุด

      โยคี 3 เดินนั่งได้หนึ่งชุด ตอนนั่งรู้สึกเหมือนตัวโค้งลง งอลง จนเกือบติดพื้น แต่พอลืมตามันก็ยังนั่งตรงดีอยู่ พระอาจารย์ว่าสมาธิดีขึ้น

      โยคี 4 เดินนั่งได้สามชุด เวลาเดินไม่เห็นเงาดำแล้ว เดินก็โคลงเคลงน้อยลง นั่งไม่ปวดหัวแล้ว สามารถกำหนดพองยุบได้




วันที่ 3 กรกฎาคม 53 เวลา 18.00 น. ถึง วันที่ 3 กรกฎาคม 53 เวลา 19.30 น.


     โยคี 2 เดินนั่งได้หนึ่งชุด ก่อนเดินโยคี 2ตั้งใจว่าจะเดิน 25 นาที นั่ง 25 นาที 

เวลาเดินจงกรมเกิดสภาวะคือ มันรู้ตลอดว่า เท้ากำลังยก เท้ากำลังก้าว เท้ากำลังแตะ คิดในใจว่า คำกำหนดขวาย่างหนอซ้ายย่างหนอหายไปไหน ทำไมไม่ท่อง 

แปลกใจว่าทำไมไม่มีคำพูด ซักพักก็ไม่คิดมัน ปล่อยมันเป็นไป พอเวลาจะเลิก ดูนาฬิกา 25 นาทีเป๊ะ ยังตกใจว่าทำไมมันเป๊ะได้ขนาดนั้น เวลาไปนั่ง กำหนดถูกหนอ 10 จุดได้คล่องมาก กำหนดได้ 10 รอบ




     ต่อมามันจะกำหนดอยู่แค่พองหนอยุบหนอ มันไม่ไปที่นั่งหนอถูกหนอ ยังสงสัยว่า เอ๊ะ ทำไมมันไม่ไปนั่งหนอถูกหนอ ต่อมาเริ่มมีอาการมือหนัก บวม ๆ ใหญ่ ๆ ไล่จากมือมาถึงไหล่ลามมาทั้งตัว ยกเว้นที่หัว เหมือนมันเป็นก้อน ๆ อยู่ข้างหน้า ก้อนใหญ่เท่าตัว หามือไม่เจอ ตาขยิบถี่มาก จนเลิกนั่ง คิดว่านั่งมาพอสมควรแล้ว จะนั่งต่อก็นั่งได้ 

พอลืมตาดูนาฬิกา 25 นาทีเป๊ะ คิดว่า " Unbelievable ไม่น่าเชื่อ" อะไรจะเป๊ะได้ขนาดนี้ พระอาจารย์ว่า อยู่ในช่วง ภยญาณ อาทีนวญาณ นิพพิทาญาณ




วันที่ 3 กรกฎาคม 53 เวลา 19.30 น. ถึง วันที่ 4 กรกฎาคม 53 เวลา 10.30 น.


     โยคี 2 เดินนั่งได้หนึ่งชุด เดินไม่ต้องท่องเหมือนชุดก่อน นั่งกำหนดพองยุบนั่งถูก มีอาการหายไปเลยเป็นพัก ๆ พอกลับมา ลืมต่อจุดไม่ได้ ต้องเริ่มที่สะโพกขวาใหม่ 

นั่งไปประมาณ 10 นาที ต่อมาไม่ต้องท่อง มันรู้ว่าพองยุบโดยไม่มีคำกำหนด แต่ยังรู้ตามอาการพองยุบอยู่ ต่อมาอีกซักพัก หายไปเลย คนอื่นมองดูจะเห็นว่านั่งเอียง ๆ จนหมดเวลาที่กำหนดไว้




พระอาจารย์ถามว่า มีความคิดมั้ย?

โยคี 2 ตอบว่า รู้สึกว่า การนั่งชุดนี้มีความคิดเยอะ อยู่ในช่วงมุญจิตุกัมยตาญาณ 
ต่อมา นอนพักครู่หนึ่งนอนเอามือขวาทับมือซ้าย รู้สึกว่านอนหลับก็ไม่ใช่ นอนไม่หลับก็ไม่ใช่ มันยังรู้อาการพองยุบอยู่ พองหนอยุบหนอชัดมาก ใหญ่มาก ช้ามาก

ณ. วันนี้ โยคี 1 ปฏิบัติไม่มีอะไรหวือหวาเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ปฏิบัติทีไรก็เข้า patternนี้ ตลอด 

patternนี้ คือ แข็ง วื๊บเข้าวื๊บออก เห็นแสงสีเหลืองสีบานเย็นสีคราม สีน้ำเงิน อยู่บนหัว




4 กรกฎาคม 53 เวลา 13.00 น.


     โยคีทั้งสี่คนกลับกรุงเทพ ฯ 6 กรกฎาคม 53 โยคี โทรมาว่า โยคี ยังมีสภาวะที่เข้มอยู่แม้กลับมาจากวัดแล้ว 
รู้สึกเหมือนเป็นขดลวดสปริง วน ๆ เวลานั่งถูกแรงผลัก โยคี 1 ถามว่าจะต้านหรือไม่ต้านดี เหมือนมีแว่นขยายเห็นอะไรก็ชัด





......................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม