Blog นี้สร้างมาเพื่อ เป็นสื่อกลางให้ผู้สนใจในการปฏิบัติ ได้มาศึษาหาความรู้ และ แนะนำสถานที่ปฏิบัติให้แก่ผู้สนใจ และ ช่วยนักปฏิบัติผู้กำลังหลงทาง ให้เจอทางออก และ เข้าถึงซึ่งความเป็นจริงของสภาวะ

1 ธันวาคม 2553

สนทนาผลการปฏิบัติกับพระอาจารย์ 30 พฤศจิกายน 2553

สนทนาผลการปฏิบัติกับพระอาจารย์



สวัสดีค่ะ พระอาจารย์


      ตอนที่ไปงานฉลองเจดีย์ ที่พระอาจารย์บอกว่าให้ไปไหว้พระบนเจดีย์แล้วจะได้รับพลัง ตอนนั้น น.ก็ยังไม่รู้สึกว่าอะไร แต่ตอนขับรถกลับบ้านไม่รู้สึกง่วงเลยค่ะ แล้วตั้งแต่วันนั้นทำงานก็ไม่รู้สึกเหนื่อย รู้สึกสดชื่น เป็นมาประมาณ 2 อาทิตย์แล้วค่ะ แต่วันนี้ไฟเริ่มจะหมดค่ะ (ต้องไปชาร์จไฟหน่อยค่ะ) ตอนนั่งสมาธิที่บ้านมี 2-3 วันที่แปลก ๆ ค่ะพระอาจารย์


     วันพฤหัส 18/11/2010

     ตอนนั่งสมาธิ เห็นแสงเป็นช่องแสง เหมือนพุ่งเข้าตา แล้วเปลือกตาก็เต้น ๆ เหมือนกับตาเราสู้แสงไม่ได้นะค่ะ ก่อนเห็นแสง จะเห็นเป็นลาย ๆ เหมือนหนังงูที่ลอกคราบนะค่ะ แล้วค่อย ๆ มีแสงวูบวาบ ๆ สักพักจึงมีแสงเหมือนพุ่งออกมาจากช่องอุโมงค์ แสงพุ่งออกมาประมาณ 4-5 ครั้ง แล้วก็ดับไป ตอนนั้นไม่อยากออกจากสมาธิ แต่พอสักพักเหมือนมีแรงอะไรบางอย่างมาทุ่มใส่หัว พอลืมตามาตาใสเลยค่ะ


     วันศุกร์ที่ 19/11/2010

     ตอนนั่งสมาธิรู้สึกเหมือนเราลืมตา เห็นแสงขาว ๆ วูบไปมา รู้สึกว่าร่างกายนั่งอยู่แต่ขยับทำอะไรไม่ได้ค่ะ ตอนเห็นแสงบางช่วงก็ไม่ได้กำหนดอะไร ว่างเปล่าเลยค่ะ



     วันจันทร์ 22/11/2010

     ตอนเดินมีต้องหยุด คิดหนอ คิดหนอ เพราะไม่มีสมาธิ แต่ตอนนั่งมีช่วงหนึ่งวูบผงะไป เห็นพระผ่านหน้าไปหันหน้ามาเอียงประมาณ 60 องศา เห็นจีวรสีเหลืองเหมือนพระปัจจุบัน อายุไม่แก่มากนักนะค่ะ ประมาณ 55-60 ปี หน้าออกเหลี่ยม ไม่แหลม ผิวสีดำ-แดง รูปร่างไม่ผอมนัก ท่านยิ้มให้แล้วเหมือนเดินผ่านหน้าไป เห็นในระยะใกล้พอสมควรแต่ น.ไม่รู้จักนะค่ะ แต่วูบนั้น น. นึกถึงหลวงพ่อปัญญา นันทภิกขุ (แต่ด้วยว่าตอนเช้านอกเห็นรูปหลวงพ่อปัญญานะค่ะ เพราะพี่คนขับรถที่บริษัทเขาวางอยู่หน้ารถนะค่ะ)*ก่อนนั่ง .อธิฐานว่าขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์-เทวดาประจำตัว น. ช่วยให้ น.มีสมาธิในการปฎิบัตินะค่ะ


     วันนี้มีเรื่องเล่าพระอาจารย์แค่นี้ละค่ะ จะเขียนมาเล่าพระอาจารย์หลายวันแล้วค่ะ แต่งานยุ่งนะค่ะ เดินจงกรม นั่งสมาธิ บางวันกลับดึกก็ทำน้อยหน่อยนะค่ะ


...กราบขอบพระคุณพระอาจารย์ค่ะ โยคี น.


     พระอาจารย์อาจารย์ว่า โยคี น. ทำได้ดี ตอนนี้ พัฒนาไปอีกขั้นแล้วนี่ 




     หลายคนบอกว่า   ได้อ่านคำถวายเจดีย์แล้ว   ไม่เหมือนคำถวายทั่วไป   มันเหมือนคำอธิษฐานแสดงความนอบน้อมต่อพระรัตนตรัยมากกว่า


     โยคี ภ. เดินทางมาพบพระอาจารย์เมื่อวันที่ 27-28 พฤศจิกายน 2553 ชุดสุดท้ายก่อนกลับ โยคี ภ.เข้าพละได้แล้ว
      โยคี ภ. พูดว่า นั่งตัวเอียงไปทางซ้าย แข็งอยู่อย่างนั้น แต่กลับรู้สึกว่ามีแม่เหล็กก้อนใหญ่เท่าหมอนข้างดึงไปทางขวา   มีอาการตัวขยายใหญ่ ๆ ในขณะลืมตาที่นั่งฟังพระอาจารย์สอบอารมณ์เลย



     โยคี ส. กับ โยคี ม. เดินทางมาพบพระอาจารย์เมื่อวันที่ 25-29 พฤศจิกายน 2553 ก่อนกลับโยคี ม. เล่าว่าทุกทีนั่งสมาธิจะเห็นแสงแวบวับ แต่ไปอธิษฐานที่เจดีย์เห็นแสงเป็นลำพุ่งเข้าหน้า




21  ธค  53

    สวัสดีค่ะ พระอาจารย์   ทุกวันน.จะมีความสุข ไม่รู้เหมือนกันมีความสุขอะไรนักหนา   ทำอะไรก็มีความสุข  ฟังเพลง  นั่งสมาธิ  ถักโครเชท์  ถักนิตติ้ง  อ่านหนังสือ ฯลฯ ก็มีความสุขนะค่ะ   บางครั้งนั่งกินข้าวก็ยิ้มได้   ขับรถก็ยิ้มได้   จนที่ทำงานเขาถามว่าเคยมีความทุกข์อะไรบ้างมั้ย    ก็มีบ้างนะค่ะ แต่น้องจะไม่ยึดติดกับอารมณ์โกรธ  อารมณ์เศร้าเท่าไหร่นัก   เป็นได้สักพักก็จะหยุดมันได้    พี่ที่ทำงานเขาสงสัยว่า   ทำไม น.นั่งสมาธิแล้วรู้สึกมีความสุข   แล้วก็สนุก   เขาสงสัยว่าสนุกยังไง   น.ก็บอกว่ามันมีความสุข    เลยทำให้สนุกที่จะทำ   โยคี 
ลืมถามพระอาจารย์นะค่ะ ว่าการแผ่เมตตา แผ่บุญกุศลให้คนอื่น แล้วตัวเราเองจะได้บุญด้วยใช่มั้ยค่ะ แล้วเราจำเป็นต้องแผ่เมตตาให้ตัวเองด้วยมั้ยค่ะ หรือเราจะได้ผลบุญเองได้เลยค่ะ

      พระอาจารย์ตอบว่า:   เหมือนเทียน เทียนเราต้องติดไฟ มีไฟที่เทียนของเราก่อน คนอื่นยังไม่ติดไฟ เราจึงสามารถต่อไฟจากเทียนเราไปที่เทียนคนอื่นได้ การที่เทียนเรามีไฟก็คือเรามีความสว่าง เทียนเรามีความร้อน เราจึงสามารถส่งต่อความสว่าง ความอบอุ่นไปยังคนอื่นได้   
 



กราบพระอาจารย์ ผม นรงฤทธิ์ ครับ

     เมื่อวานนี้ผมไป กทม. ได้เปิด CD เสียงอ่านจากหนังสือ ปรากฏการณ์อันน่าพิศวงทางจิตฟังตลอดทาง พอฟัง ๆ ไปก็รู้สึกซู่ซ่า ทั้งตัวในขณะที่เราขับรถ รู้สึกว่า CD นี้ดีมาก ๆ เรื่องราวในหนังสือก็ดีอยู่แล้ว เสียงคนอ่านก็นุ่มนวลน่าฟังมาก ฟังแล้วจิตเป็นสมาธิเอิบอิ่ม สงบได้ดี เราก็คิดในใจว่า ต่อไปถ้าหนังสือหมดแล้วเราจะแจก CD เสียงอ่านนี้ต่อ จิตที่เป็นสมาธิตอนนั้นมันก็คิดต่อว่า เราจะปฏิบัติให้ถึงที่สุด เราจะทำให้กระดูกของเราเป็นแก้ว เพื่อให้นักปฏิบัติรุ่นหลังได้มีกำลังใจที่จะปฏิบัติ ให้รู้ว่าผลการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบยังมีอยู่ไม่สูญหายไปไหน และเป็นสิ่งเดียวที่จะยืนยันได้ว่า ผลการปฏิบัติที่พระพุทธเจ้าทรงทิ้งไว้ให้นั้นเป็นจริง และ มันก็มีความรู้สึกขึ้นมาเองว่า ในร่างกายของเรานี้มีแค่ 3 อย่าง
1.มีร่างกายซึ่งชิ้นส่วนภายในร่างกายต่างก็ทำหน้าที่ของมันเองแต่มันจะอยู่ไม่ได้ถ้าขาดวิญญาณ
2. จิตวิญญาณที่ควบคุมกาย แต่ก็ต้องอาศัยกาย
3.กิเลสตัณหาที่อิงอาศัยจิต ..
     มันเห็น 3 สิ่งนี้ในร่างกายอย่างชัดเจน แต่เมื่อก่อนไม่เคยเห็นอย่างนี้ หรืออาจจะเห็นไม่ชัดขนาดนี้ มองคนอื่น ก็เห็น 3 สิ่งนี้หมุนอยู่ในกายของเขาเช่นกัน ความรู้สึกนี้เป็นอยู่ทั้งวัน และมีการพิจารณาตลอดว่า สิ่งที่คนเราเป็นก็เพราะว่าขาดสติปัญญาพิจารณา ปล่อยใจให้ทำตามกิเลสตัณหาและกายก็กระทำตามใจ แต่ผู้ที่ปฏิบัติแล้วมีสติปัญญาพิจารณา ไม่ปล่อยใจตามอำนาจกิเลสตัณหา อ๋อ..นี่ละหนาทางที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้... ตอนที่ผมพิมพ์อยู่นี้ความรู้สึกนั้นได้คายลงไปแล้วไม่ชัดเจนเหมือนเมื่อวาน


  
26/12/2010  

     สวัสดีค่ะ พระอาจารย์   เมื่อคืนตอนนั่งสมาธิมีแรงผลักทำให้เอนนอน ตอนกำลังเอนลงเหมือนมีก้อนอะไรเบา ๆ บนตัก แล้วขยายใหญ่ขึ้น    รู้สึกเหมือนแขนมันยืดยาวออก   แต่ตอนเอนลงนอนแล้วกำหนดจุดไม่ค่อยได้นะค่ะ ตอนเอนนอนลงขายังขัดกัน มือยังประสานกันอยู่ค่ะ  พอกำหนดไม่ได้ก็เลยออกจากสมาธิ   มาเริ่มต้นนั่งใหม่ ก็มีแรงผลักอีกแต่มันเบา ๆ หรือ น.ไม่ฝืนตามที่พระอาจารย์บอก    มันก็เลยเบา ๆ แต่พอเอนนอน ก็ยังค่อยนิ่งเหมือนเดิม เหมือนจิตยังสับสนว่าที่เอนนอนนั้นจิตสั่งหรือ ร่างกายมันค่อย ๆ เอนไปเองยังสับสนอยู่ค่ะพระอาจารย์  แต่ไม่รู้สึกเหนื่อยเหมือนคืนก่อนค่ะ   ขอบคุณค่ะ   โยคี น.



27/12/2010

      สวัสดีค่ะ พระอาจารย์ เมื่อคืนตอนนั่งสมาธิ รู้สึกกระตุกเหมือนตุ๊กตายางโดนเติมลม รู้สึกถึงแรงเบา ๆ ดันให้ล้มตัวลงนอน ตอนเอนไป น.เอาจิตไปรวมที่ท้อง ไม่ได้กำหนดอะไร รู้สึกว่างมาก ช่วงตัวด้านบนเหมือนไม่มีอะไรในตัวเลย เหมือนเป็นแท่งอะไรไม่รู้ ช่วงนอนแล้วไม่ได้กำหนดอะไร ตามที่พระอาจารย์บอกนะค่ะ แต่เอาจิตจับอยู่ที่ท้องรับรู้ว่าพอง-ยุบเท่านั้น   แต่ความรู้สึกปวดขายังมีอยู่ เพราะขาเกยทับกันอยู่จะขยับออกก็ไม่ได้ ตอนนอนลงช่วงแรกมืดไปหมดไม่มีแสงอะไรเลย พอนอนไปสักพักน้องเห็นลูกแก้วใส ๆ ขนาดประมาณลูกเทนนิส ข้างในมีลูกแก้ว3ลูก ขนาดประมาณเล็กกว่าลูกปิงปองเล็กน้อย มีสีขาว-ทอง-ทองแดง ส่องแสงออกมา แสงเข้าตาแวบก็หายไป   ตอนจะออกจากสมาธิลืมตาไม่ขึ้น  แต่พอออกแล้วรู้สึกปวดขามากกว่าในสมาธิค่ะ ขอบพระคุณค่ะ พระอาจารย์ ..โยคี น.
29/12/2010

     ตอนเดินกำหนดได้ถูกต้อง นิ่งมากกว่าทุกวัน ตอนหยุดเดินมีบางครั้งโงนเงน ตัวเหวี่ยงเล็กน้อยมี 1 ครั้งที่หยุดยืน นานพอสมควร ขยับขาไม่ได้ ลืมตาไม่ได้ รู้สึกว่ามือพองมาติดกัน เพราะ น. สังเกตว่าถ้าลืมตาพอมือขวาจับมือซ้ายมือขวาต้องรับน้ำหนักมือซ้ายด้วย แต่ตอนอยู่ในสมาธินั้นเหมือนมันพองติดกันเอง..โยคี น.





30/12/2010

      สวัสดีค่ะพระอาจารย์เมื่อคืน น.เดินได้ 40 นาที นั่ง 20 นาที ตอนเดินก็เกิดอาการไม่อยากเดิน ลืมตาไม่ขึ้นอีกแล้วค่ะแต่ไม่นานเท่าไหร่ การลืมตามไม่ขึ้นนี้ ที่พระอาจารย์เคยบอกว่า เรียกว่าการเข้าพละใช่มั๊ยค่ะ แล้วตอนนั่งกำหนดตอนแรกได้สัก 2 รอบก็หยุดไปเลยไม่ได้กำหนดอะไร ทีนี้รู้สึกถึงพลังบางอย่างมาอยู่ที่แขน เหมือนกระแสไฟฟ้ายังไงไม่รู้นะค่ะ เลยปล่อยให้มันแช่ไว้อย่างนั้น จริง ๆ ตอนยืนก็เหมือนมีพลังที่วิ่งไปตามขานะค่ะ แต่ไม่ชัดเจนเหมือนตอนนั่ง..โยคี น.





1 มกราคม 2554

     โยคีนุ เล่าว่า ได้ยินพระอาจารย์พูดว่า “ค่อย ๆ ลืมตา” แต่เหมือนมีแรงต้าน ทำให้ตากระพริบถี่ ๆ พยายามลืมตา แต่ลืมตาไม่ขึ้น ฝืนลืมตาไม่ได้ เหมือนถูก lock มือกับขาเหมือนถูกดูดจนไม่มีความรู้สึก แยกออกจากกันไม่ได้ กำหนดต่อมันไม่ไป เหมือนหลับแต่ได้ยินเสียงรอบข้างอยู่ แต่บางครั้งเหมือนหลับลึกไม่ได้ยินเสียงก็มี



..........................



4 ความคิดเห็น:

  1. ดิษฐ11.12.53

    อนุโมทนาบุญด้วยครับ

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ16.12.53

    ขออนุโมทนาสาธุ...กับโยคีผู้ปฏิบัติทุกท่าน

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ19.1.65

    สาธุๆๆกับโยคีผู้ปฏิบัติทุกท่าน

    ตอบลบ

บทความที่ได้รับความนิยม