Blog นี้สร้างมาเพื่อ เป็นสื่อกลางให้ผู้สนใจในการปฏิบัติ ได้มาศึษาหาความรู้ และ แนะนำสถานที่ปฏิบัติให้แก่ผู้สนใจ และ ช่วยนักปฏิบัติผู้กำลังหลงทาง ให้เจอทางออก และ เข้าถึงซึ่งความเป็นจริงของสภาวะ

9 มีนาคม 2553

เมื่ออาตมาเรียนกรรมฐาน ที่วัดมหาธาตุ


โดยพระราชสุทธิญาณมงคล

หนังสือกฏแห่งกรรมเล่ม 8

ประกอบไปด้วยความรู้ในการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ธรรมบรรยาย ตลอดจนประสบการณ์ต่าง ๆ จากผู้ปฏิบัติธรรมหลากหลาย เพื่อให้ท่านผู้สนใจได้ศึกษา ค้นคว้า และนำไปพิจารณา ตลอดจนเพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติธรรมต่อไป


เรื่อง เมื่ออาตมาเรียนกรรมฐาน ที่วัดมหาธาตุฯ

โดยพระราชสุทธิญาณมงคล ( หลวงพ่อจรัญ ฐิติธัมโม)


โอกาสบัดนี้ อาตมาภาพจะแสดงพระธรรมเทศนา ในการบำเพ็ญกุศลทักษิณาทานอุทิศถวายแด่พระเดชพระคุณ ท่านเจ้าคุณอาจารย์พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ) ท่านได้มรณภาพไปสู่สัมปรายภพ ปรารภ ๖ ปีในปีนี้แล้ว คณะญาติ ศิษยานุศิษย์มี ท่านอาจารย์มหาสุภาพ เขมรํสี พระมหาบุญชิต ญาณวีโร พร้อมทั้งคณะ อุบาสก อุบาสิกา ถือว่างานนี้เป็นงานอุทิศถวายแด่พระเดชพระคุณ ครูบาอาจารย์ที่เคารพสักการะอย่างสูง ในวันนี้ ท่านสาธุชนศิษยานุศิษย์ทั้งหลายโปรดสำนึกสมัญญาในการบูชาคุณครูอุปัชฌาย์อาจารย์ที่ว่า



๑. เราได้ข้อ ความดีอะไรจากพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณอาจารย์บ้าง


ข้อ ๒. เมื่อได้ความดีจากท่านแล้ว เรานำไปเผยแพร่ขยายที่ไหนบ้าง


ข้อ ๓. มีประโยชน์ต่อตนเองหรือไม่ และนำไปใช้ประโยชน์แก่ผู้อื่นหรือไม่


ข้อ ๔ จุดมุ่งหมายและเป้าหมายของพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณอาจารย์คืออะไร

 น่าเสียดายที่ยุคสมัยนี้ ไม่ยึดมั่นความดีของครูอาจารย์ไปแพร่ขยาย วันนี้เป็นวันบูชาความดีของอาจารย์ คนที่ไม่มีความดีเมื่อตายไปแล้วชื่อหาย เพราะไม่มีอนุสรณ์ความดี แต่พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณอาจารย์มีความดีที่ประทับใจ เป็นอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนา เดี๋ยวนี้เป็นวิปัสสนาจารย์กันทั่วประเทศ สอนผิด ไม่เอาของครูบาอาจารย์ไปเผยแผ่เลย อวดรู้ อวดดีต่อครูบาอาจารย์ ไม่เคารพ ไม่สักการะ ไม่มีการบูชานับถือครู และบรรดาญาติสนิทมิตรสหายมาแตกคอกัน ไม่มีการเชื่อฟังแต่ประการใด อาตมาเสียใจอย่างยิ่งที่เราได้สูญเสียอาจารย์ที่ยิ่งใหญ่ในประเทศไทย และยิ่งใหญ่ในโลก ไม่มีใครเทียบเท่าพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณอาจารย์




วันนี้อาตมาจะมาเทศน์ว่า อาตมาได้รับความดีอะไรจากวัดมหาธาตุฯ และท่านเจ้าคุณอาจารย์ ( ท่านเจ้าคุณโชดก ) แล้วนำความดีนี้ไปเผยแพร่ขยายต่อไปหรือไม่ มีอานิสงส์ปฏิเวธธรรมบ้างไหม ทุกวันนี้หมายความว่าอะไร บวชแล้วออกไปธุดงค์ตามถ้ำตามเหว นักธรรมตรีก็ไม่เรียน ฟังข้อคิดกันก่อน ไม่ยอมเรียนหรือจะรู้ ไม่ยอมดูหรือจะเห็น ไม่ยอมฟังหรือจะได้ยิน ไม่ยอมทำหรือจะเป็น จะลำเค็ญย่ำแย่จนแก่ตาย

ท่านคณะศิษยานุศิษย์ อุบาสกอุบาสิกาได้รับความดีอะไรจากท่านเจ้าคุณอาจารย์บ้าง คิดดูนะ ไม่ใช่มานั่งเอาบุญ ฝรั่งชอบมาหาธรรมะ แต่คนไทยชอบหาบุญ ทัวร์บุญกันทั่วแล้วกลับมานั่งทะเลาะกัน ฝรั่งมังค่า คริสต์ อิสลาม เดี๋ยวนี้นั่งวิปัสสนา บอกพองหนอ ยุบหนอดีมาก ชอบปฏิบัติมาก แต่เสียใจคนไทยบางคนนั่งวิปัสสนา ๗ วัน แล้วไปเป็นอาจารย์สอนผิด ๆ พลาด ๆ อาตมาสอนมา ๔๐ ปีแล้วยังไม่เป็นวิปัสสนาจารย์ เป็นเพียงอาจารย์ผู้ช่วยพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณอาจารย์ที่ท่านให้ความรู้ ความดี มีปัญญา มีความรู้ออกไปสู้งาน ฐานะก็ดีมีหลักฐาน มีปัญญาสามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้


ทราบกันดีแล้วว่าวันนี้ทำบุญอุทิศกุศลให้ครูบาอาจารย์ บางคนก็มาสักหน่อย หรือฝากเงินมาทำบุญ แต่ไม่ปฏิบัติความดีที่ท่านให้เราไว้ ไม่เอาบุญมาใส่ใจคือความสุข เดี๋ยวนี้คนส่วนมากลืมพระอาจารย์ ลืมตัว ลืมตาย ลืมกาย ลืมแก่ ลืมแม่ ลืมพ่อ รักเมีย เสียไม่ได้ วันนี้เรามาบูชาท่านเจ้าคุณอาจารย์ ไม่ใช่เปตานัง ทักขิณัง ไม่ใช่บูชาครูวันพฤหัสบดีที่บูชาด้วยดอกมะเขือ ดอกมะลิ แต่ ๑. สักการะ ๒. เคารพ ๓. บูชา ๔. นับถือ ๕. เชื่อฟัง วันนี้จึงมี ๕ ประการที่มาบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายแด่ท่านเจ้าคุณอาจารย์


 สักการะคืออะไร สักการะแปลว่าเอาใจใส่ ภาษาบาลีแปลอย่างนี้ ตีความหมายให้สั้นคือ เอาใจใส่ครูบาอาจารย์ของเรา เคารพคืออะไร ไม่ใช่มากราบไหว้กลับไปแล้วหัวผงก ๆ เรียกว่าเคารพนี้เป็นเคารพแบบปลอม เคารพจริงต้องเคารพถึงใจ หมายความว่าต้องมั่นใจต่อครูบาอาจารย์ ไม่ประพฤติตัวเหลวแหลกแตกราญ หละหลวม เหลาะแหละ เหลวไหลด้วยประการทั้งปวง และโยมมีพ่อแม่ ต้องเอาใจใส่ มั่นใจต่อพ่อแม่ และต้องเอาใจใส่มั่นใจต่อครูบาอาจารย์ของเรา อย่าไปมั่นใจคนโน้นบ้าง คนนี้บ้าง สับสนอลหม่านแล้วท่านจะไม่ได้อะไรเลย จะไม่ได้ความดีจากครูบาอาจารย์



บูชาคืออะไร ท่านทั้งหลายไม่เข้าใจ บูชานะธูปดอกเดียวหลายดอกก็ได้ แต่ใจจริงไม่มีเลยนะ ทำวันทยาวุธ วันทยาหัตถ์ ตามแบบฟอร์มเป็นเพียงอามิสบูชา แต่ถ้าเราน้อมระลึกในใจว่า จะปฏิบัติตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตามที่ท่านเจ้าคุณอาจารย์สอน มีทาน ศีล ภาวนา ให้มั่นคลดำรงไว้ในพระพุทธศาสนา เป็นการปฏิบัติบูชา แล้วจงน้อมระลึกนึกถึงตัวเองว่าได้บูชาวงศ์ตระกูล บูชาทรัพย์ บูชาชื่อเสียง บูชาความรัก หรือไม่ ท่านเจ้าคุณอาจารย์ได้ให้สมบัติแล้ว ให้ชื่อเสียงเรียงนาม และความรักแก่เราอย่างดี เป็นอุปัชฌาย์อาจารย์ด้วย ให้ทั้งความรัก ความรู้ ให้ทั้งงานและหน้าที่ครบทุกประการแล้ว ญาติโยมเอาไปใช้ตามนั้นหรือไม่ ไม่ใช่มากราบรูปภาพของท่านแล้วใช้ได้ แต่ไม่ปฏิบัติตามที่ท่านสอน

นอกจากนี้ ท่านเจ้าคุณอาจารย์ยังสอนให้รักกัน ญาติพี่น้อยอย่าแย่งสมบัติกัน ท่านเทศน์เสมอต้องเคารพพ่อ เคารพแม่ คนเราที่มันเลวเพราะไม่เคารพผู้ใหญ่ ไม่เคารพครูอุปัชฌาย์อาจารย์ ประเพณีวัฒนธรรมของชาติก็เหลวแหลกแตกลาญเพราะไม่เคารพผู้ใหญ่ ไม่เคารพครูบาอาจารย์ เมื่อก่อนนี้อาตมาต้องสรงน้ำให้ครูบา-อาจารย์ ล้างเท้าให้ท่านทุกวัน รินน้ำร้อนน้ำชาและพัดวีให้ท่านเสมอ เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว




นับถือคืออะไร คือ ยึดเข้ามาไว้ในใจของเรา ท่านเจ้าคุณอาจารย์สอนเสมอว่า พี่น้องอย่าทะเลาะกัน สามีภรรยาอย่าทะเลาะกัน บ้านไหนที่สามีภรรยาทะเลาะกันเป็นบ้านอัปมงคล สร้างกุศลไม่ได้ ท่านเจ้าคุณอาจารย์สอนนักสอนหนาในโบสถ์วัดมหาธาตฯ อาตมาได้ความดีจากวัดนี้ ทำให้สามารถเลี้ยงคนเป็นพัน เงินไหลนอง ทองไหลมา ขอให้เชื่อครูบาอาจารย์ เคารพจริงทั้งต่อหน้าและลับหลัง จึงจะมีเหตุผลดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น เชื่อฟังคืออะไร เชื่อฟังหมายความว่าเราปฏิบัติได้ ๔ ข้อแล้ว นำคำสั่งสอนของอุปัชฌาย์อาจารย์ของเราไปชี้แนะ แสดงเหตุผลแก่ตนและครอบครัวพร้อมทั้งประชาชนทั่วไป เดี๋ยวนี้อาตมามองเห็นแล้วไม่มีใครเชื่อฟังครูบาอาจารย์ ต่อหน้ามะพลับ ลับหลังตะโกทั้งนั้น


ท่านเจ้าคุณอาจารย์บอกฝรั่งมากันมาก มาหาธรรมะ แต่คนไทยชอบหาบุญ ท่านได้ส่งศิษย์ไปสอนต่างประเทศมากมาย และที่อังกฤษท่านไปอยู่มาและเล่าให้อาตมาฟัง อาตมาจำได้หมดไปสอนลูกได้นะ หนูทั้งจดทั้งจำ สิ่งใดงามอย่าได้งด หนูทั้งจดหนูทั้งจำ นี้ได้จากท่านเจ้าคุณอาจารย์ อาตมาจำคำสอนของท่านได้แม่น นับถือท่าน เชื่อฟังท่าน และปฏิบัติตาม ถ้าไม่เชื่อฟัง ไม่ปฏิบัติตามแสดงว่าไม่ใช่ลูกศิษย์แน่นอน จะมาพูดให้เชื่อถือไม่ได้ ต้องวิจัยประเมินผล ไตร่ตรองด้วยปัญญาก่อน ที่อาตมาได้จากท่านสิ่งละอันพันละน้อยเหลือกินเหลือใช้ตลอดมา ตอนที่ท่านไปเทศน์ที่อินทร์บุรี ท่านบอกสร้างความดีกันเถิดจะเกิดผลเป็นมหามงคลสมัยในชีวิตด้วยการเจริญพระกรรมฐาน มีบทความดังกล่าวแล้วทุกประการ


นี่ ๕ ประการนี้แหละทำบุญกุศล แล้วมาเข้ามูลนิธิกัน อาตมาชอบเงินงอก ท่านทั้งหลายถ้าท่านไม่ชอบเงินหมด ทำใจให้สดชื่น ทำใจให้มีสติปัฏฐาน ๔ อย่าทำใจให้เหี่ยวแห้ง มันจะแล้งน้ำใจ คนที่แล้งน้ำใจ เงินก็หมด เงินก็ไม่ไหลนอง ทองก็ไม่ไหลมา แล้วไปวัดมีดอกไม้ธูปเทียนกันไปทุกคน นึกว่าจะไปหาพระ แต่ไปขอหลวงพ่อในวิหารในโบสถ์ ขอให้ผัวรักหน่อย ขอให้ขายที่ดินได้หน่อย และช่วยให้รวยหน่อย ไปขอให้พระช่วยคือไปหาบุญ แต่ฝรั่งมังค่าแสวงหาธรรมะ ไปเข้าวัดปฏิบัติธรรม ส่วนคนไทยไปหาบุญ ทัวร์บุญมาจ้ะ วันนี้ไปมา ๘ วัดแล้ว วัดอัมพวันเป็นวัดที่ ๙ เป็นวัดสุดท้าย เพราะมากินข้าว ข้าววัดอัมพวันอร่อย พอลงจากรถก็ถามให้แซ่ดว่าวัดนี้เป็นพระสุปฏิปันโนหรือเปล่า วัดนี้เป็นพระอรหันต์หรือเปล่า อาตมาเลยบอกว่าวัดนี้มีแต่พระอรเห ใครมีทุกข์ก็หันก็เหไปช่วยให้เขาพ้นทุกข์ อาตมาได้ของดีจากวัดนี้ แต่โยมเล่า ถ้าเอาการเคารพบูชา ๕ ประการข้างต้นไปใส่ในใจจึงจะเป็นการบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายท่านเจ้าคุณอาจารย์และท่านจะทราบด้วยญาณวิถีอย่างดี ถ้าใครหน้าไหว้หลังหลอกท่านก็รู้นะ แต่ท่านพูดไม่ออก ขอฝากให้ไปคิดโดยทั่วหน้ากัน เชื่อท่านเจ้าคุณอาจารย์เถิดจะประเสริฐที่สุด


กาลเวลาต่อมา พระพิมลธรรม (อาจ อาสภเถระ) มีคำสั่งมาว่าใครที่จะรับเป็นอุปัชฌาย์ โปรดไปเข้ากรรมฐานที่วัดมหาธาตุฯ อาตมาไปก็พบพระมหาโชดก ปีนั้นท่านได้รับสมณศักดิ์เป็น พระครูอุดมวิชาญาณเถระ ท่านบอกให้ดูในพระไตรปิฎก สอนให้ยืนด้วยสติสัมปชัญญะปัพพะ สติมา สัมปชาโน พุทหายใจเข้า โธหายใจออก กับพองหนอยุบหนอน่ะอันเดียวกัน แต่เปลี่ยนที่มาไว้ที่ท้อง คือ อานาปานสตินั่นเอง ให้มีสติทุกลมหายใจเข้าออก และทำสติปัฏฐาน ๔ บางคนมาทำกรรมฐานพอกลับไปแล้วเลิกเลย ไม่เคยเดินจงกรม ไม่เคยนั่งสมาธิ ไม่เคยกำหนดจิต ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ทวารหกไม่เคยกำหนดรู้เลย อย่างนี้ใช้ไม่ได้ ไม่ใช่มาเรียน ๗ วันแล้วไปเป็นอาจารย์นะ อาตมามาอยู่ ๖ เดือนไม่ได้ญาณสักที พระอาจารย์บอกว่าพรุ่งนี้จะมีเทศน์ลำดับญาณแล้วท่านก็ตรวจสอบว่าองค์ไหนจะฟังเทศน์ได้บ้าง คัดเลือกให้ไปฟัง อาตมานึกโกรธว่าท่านน่าจะให้อาตมาฟัง จะได้รีบกลับวัด เพิ่งมารู้ตอนหลังว่าอาจารย์ท่านเมตตามาก เพราะอาตมายังไม่ได้อะไร ถ้าไปฟังเทศน์ลำดับญาณก็จะฟังไม่รู้เรื่องและจะกลายเป็นวิปัสสนึก คือนึกเอาตามใจชอบ ทำให้เสียหายมาก อาตมาอยู่เป็นเวลานาน ศึกษาปฏิบัติอย่างเข้มงวดกวดขัน แต่ได้ช้าเพราะโตแล้วมีกังวลมาก มีสามเณรองค์หนึ่งชื่อ ทองดี ท่านดีกว่าอาตมาอีก เพราะยังเด็กไม่มีกังวล ท่านได้ผลสมาบัตินั่งได้ ๒๐ ชั่วโมง รุ่นเดียวกับ อาจารย์แพง ที่วัดนี้ อาตมาเลยบอกเณรพรุ่งนี้อย่างเพิ่งฟังเทศน์ลำดับญาณนะ ไว้ฟังพร้อมกัน เทศน์ลำดับญาณน่ะไม่ใช่ฟังง่าย ๆ นะ ปฏิบัติ ๗ วันแล้วฟังนะ ที่นี่ไม่ได้นะ ต้องรักษาขนบธรรมเนียมของท่านไว้



อาตมาได้ฟังเทศน์ลำดับญาณ โดยอาจารย์พม่ามาเทศน์และมีทูตมาแปลเป็นภาษาไทย ฟังพร้อมกับหลวงพ่อสดวัดปากน้ำ เดิมทีอาตมาไม่ทราบว่าท่านมานั่งกรรมฐานที่วัดมหาธาตุฯ พอดีท่านเจ้าคุณอาจารย์ไปสอบอารมณ์ อาตมาก็ตามไปฟัง หลวงพ่อสดบอกอาตมาว่า เราเป็นขี้ข้าเขามาหลายสิบปี มีแต่นิมิตเครื่องหมายมากมาย และติดนิมิต พอกำหนด เห็นหนอ ๆ นิมิตธรรมกายหายไป ปัญญาเกิด และเข้าผลสมาบัติได้ถึง ๘๔ ชั่วโมง หลังจากนั้นก็เข้านิโรธสมาบัติได้ด้วย อันนี้ขอเปิดเผยเพราะท่านมรณภาพไปแล้ว และท่านยังบอกอาตมาอีกว่า ถ้าเราอยู่เราจะสอนอย่างนี้ต่อไป แต่ถ้าเราจะหมดอายุเราก็ขอแค่ตัวเราพ้นทุกข์


การเป็นครูอาจารย์สอนกรรมฐานมิใช่ง่าย อยู่ปริวาส ๗ วันแล้วออกมาสอนกรรมฐานกันตามบ้านนอกน่ะ สอนผิดกันมากน่าเสียดาย อาตมาเองได้เคล็ดลับจากท่านเจ้าคุณอาจารย์ ตามท่านไปสอบอารมณ์ที่เรือนจำบางขวาง ฟังว่าท่านสอบอย่างไร ถามอย่างไร ลีลาทางไหน จดจำไว้จึงจะเป็นครูได้ เดี๋ยวนี้ไม่ต้อง พอทำได้พองหนอยุบหนอ ขวาย่างหนอ ซ้ายย่างหนอ เป็นครูเลย เป็นได้ที่ไหนกันเล่า บางคนขวาย่างหนอ ซ้ายย่างหนอ ตาไปอยู่บนหลังคา บางคนขวาย่างหนอ ซ้ายย่างหนอ แฟนไม่มาเยี่ยมเลยหนอ เห็นแฟนคนอื่นมาหนอ นี่หรือกรรมฐาน มันเพี้ยนมากมายนะ ขอฝากไว้ สิ่งสำคัญมากเมื่อกลับไปแล้ว คิดหนอ หายใจยาว ๆ กำหนดคิดหนอที่ลิ้นปี่ แล้วจะคิดออก ไม่ต้องไปหาหมอดูที่ไหน เราเป็นพิเภกโหราอยู่ในสุวรรณพลับพลา คือตัวสติ พระลักษณ์พระรามคืออะไร เขียวชอุ่มเป็นพุ่มไสวคือพระราม บริสุทธิ์ขาวสะอาดหมดจดคือพระลักษณ์ศรีอนุชา ส่วนไอ้ทศกัณฑ์มันไม่เป็นตัวของมัน เอาจิตไปฝากไว้กับคนอื่น มันจึงต้องตายเพราะไอ้ลิงรับอาสามา นี่ออกมาในรูปแบบนี้ชัดเจน อาตมาได้ความดีจากท่านเจ้าคุณไปมาก จำทุกกระเบียดนิ้วเลย และจดไว้เล่มเบ้อเร่อ เทศน์ลำดับญาณที่ท่านเจ้าคุณนิมนต์อาจารย์ชาวพม่ามาเทศน์เป็นภาษาธรรมยังอยู่ครบ อาตมาจดไว้และจำได้หมด เพราะรักและเคารพครูบาอาจารย์จึงเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี จะพิมพ์เป็นเล่ม แล้วเอามาฝากไว้ที่นี่ด้วย แต่ไม่ขาย เอามาฝากไว้เป็นหลักต่อไป


พ.ศ. ๒๔๙๙ พระพิมลธรรมให้อาตมาไปช่วยงานที่จังหวัดร้อยเอ็ด ช่วยอยู่ปีครึ่งแล้วกลับมาเป็นสมภารเจ้าอาวาสวัดอัมพวัน หลวงพ่อใหญ่ พระพิมลธรรมได้มีจดหมายไปให้เปิดสำนักได้ กุฏิกรรมฐานหลังแรกหญิงสองร่างนางสองชาติเป็นผู้สร้าง พ.ศ. ๒๕๐๑ เปิดสำนักปฏิบัติธรรม พระพิมลธรรม พร้อมด้วยท่านเจ้าคุณอาจารย์ พระครูธรรมบาล และพระครูอีกหลายพระครูของวัดมหาธาตุฯ ไปหมด ไปเรือเมล์ไม่มีรถ สมัยก่อนการเดินทางทุรกันดารมาก เปิดสำนักวิปัสสนากรรมฐานแล้ว อาตมาก็เอารูปหลวงพ่อใหญ่และรูปครูบาอาจารย์ตั้งไว้แล้วปฏิบัติตาม อยู่มาไม่ช้าตำรวจมาวัดอัมพวันบอกให้เอารูปอาจารย์กรรมฐานลงให้หมด เป็นพวกคอมมิวนิสต์ อาตมาไม่ยอม เป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่เอาลง สึกเป็นสึก ปืนก็มี ๒ กระบอกจะกลัวอะไร นี่ปืนเอ็ม ๑๖ ยิงตายนะ อ่อนน้อม ถ่อมตน ปากหวาน ตัวอ่อน มือเป็นหงอนตายเลย กลับไปเลย ปืนนี้ใช้ลูก ๑๐ ลูก ยิงตายเลยนะ บอกพวกกรรมฐาน ไม่ใช่คอมมิวนิสต์ องค์อื่นหัวหดกันหมด องค์นี้หดไม่ได้ ไม่ใช่เต่า


ต่อมาตำรวจมาอีก อาตมาบอกจะจับก็จับไปเลยแต่อย่าเอารูป ลงนะ จะเจอข้อหาทำลายทรัพย์ ครูบาจารย์ของเราจะเป็นคอมมิวนิสต์ได้อย่างไรในเมื่อสอนคนให้เป็นคนดี นี่องค์นี้สู้นะ ส่วนเปรียญรุ่นเดียวกันหนีหมดเลย เอารูปพระพิมลธรรม และรูปท่านเจ้าคุณอาจารย์คว่ำหมด อาตมาไปเห็นเลยขอเอามาล้าง วัดอาตมาเดิมมีกุฏิกรรมฐาน ๒ หลัง บัดนี้ไปดูซิ เพราะได้ความดีจากวัดมหาธาตุฯ จึงมีห้องส้วม ๓๐๐ ห้อง โรงครัวเลี้ยงคนวันละพัน มีข้าวสารเดี๋ยวนี้หมดไปแล้ว ๓๕๐ กระสอบ คริสต์ อิสลามก็เอามาให้ เขามาทำไม? เขามานั่งกรรมฐาน อาตมาจึงได้ตำราจริงออกมาเลยว่าคนไทยชอบบุญ ทำบุญแบบคนไทย พระก็ให้พรเกินโควต้า โยมค้ากำไรเกินควร ทำบุญบาทเดียว แต่จะเอา ๑๒ ล้าน ธรรมไม่เอา มาบวช ๗ วัน บอกบวชเอาบุญ มีห้องแอร์ไหม มีพัดลมไหม อดอยากปากแห้งไหม วัดนี้ไม่มี มีแต่บวชสร้างบุญหาธรรม แสวงกุศลให้แก่ตน ไม่ใช่ไปบวชเอาบุญ กินแล้วก็นอน ให้หวยอำนวยพร อย่างที่ไปกันตามวัดตามวานะ อย่างนั้นโง่ที่สุด คนที่ไร้บุญขาดวาสนาน่ะมี ๔ ขี้ ๑. ขี้เกียจ ๒. ขี้โกง ๓. ขี้อิจฉา ๔. ขี้ริษยา สรุปแล้วประเมินเป็นข่าวกรองได้ว่า ฝรั่งต่างชาติชอบมาหาธรรมะ คนไทยขาวพุทธชอบไปหาบุญ ไปนั่งในวัดก็ได้บุญ ไปเป็นหนี้สงฆ์ก็ไม่รู้ สร้างความดีก็ไม่ได้ คนไทยส่วนมากชอบเอาบุญ หัวหงอกหัวดำขอประทานโทษอาราธนาศีลไม่เป็น บางคนเอาลูกไปบวช กินเหล้าเมาสุรากันในวัด บวชเอาบุญ ไม่ต้องทำอะไร จะเดินไปไหนก็เป็นอาบัติ กินแล้วก็นอน นอนแล้วก็กิน สึกเข้าเมาเย็นแล้วก็มีชนักปักหลังเป็นกฎแห่งกรรมติดตามตัวไป แล้วไปพูดกันในสังคมว่าบวชไม่ได้เรื่องได้ราวแต่ประการใด ถูกต้องขอฝากไว้เพราะเธอไม่เอาเรื่องไม่เอาราวมาตั้งแต่บ้านแล้ว




อาตมาจำได้ว่าหลวงพ่อพระธรรมธีรราชมหามุนีท่านเตือนอาตมา ท่านบอกว่า นี่ท่านพระครู ตอนนั้นอาตมาเป็นพระครู ท่านบอกว่า พวกที่มาบวชน่ะ ถ้าเขาไม่มีศรัทธาอย่าบวชให้นะ ถ้าเขามีศรัทธาบวชให้เลย เพราะท่านมีประสบการณ์ตอนเป็นเจ้าคณะภาค พวกที่พ่อแม่ยัดเยียดให้บวชน่ะมีปัญหาและทำความเสียหายมาก อาตมารับคำสอนของท่านใส่เศียรเกล้า จำได้จนบัดนี้ มีความหมายมาก นอกจากนี้พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณอาจารย์ยังบอกอีกว่า นี่เจ้าคุณ อาตมาเป็นเจ้าคุณแล้วก่อนท่านมรณภาพ นี่เจ้าคุณเอาตำราใช้ให้ถูกต้องนะ จะมีความรู้มากน้อยไม่สำคัญ ปฏิบัติและสอนตามที่รู้มาก็แล้วกัน อาตมาจดแล้วจำ บันทึกไว้เล่มเบ้อเร่อเลย ความรู้ ความดีที่ครูอาจารย์มอบหมายให้เรา เราต้องรักษาไว้เหมือนทรัพย์ ชื่อเสียง ความรัก เราจึงมีชื่อเสียงมาจนบัดนี้ และพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณอาจารย์ยังเทศน์อีกว่า เราทั้งหลายเจริญวัยชันษามาได้ เพราะพ่อแม่ชุบเลี้ยงเรามา เราได้รับเรือน ๓ น้ำ ๔ ของพ่อแม่กันมาดีทุกคน


เรือน ๓ คือ เรือนครรภ์ เรือนตักที่แม่อุ้มใส่ตัก และเรือนที่อยู่อาศัยที่พ่อแม่หาไว้ให้ ส่วนน้ำ ๔ คือ น้ำนม น้ำคำลูกจำแม่ให้พร น้ำพักน้ำแรงที่พ่อแม่หาเลี้ยงเรา และน้ำใจที่ไม่มีอะไรเทียบได้เลย เราจึงควรมีความกตัญญูกตเวทิตาธรรม อาตมาจำสิ่งละอันพันละน้อยจากคำสอนของท่านเจ้าคุณอาจารย์ แล้วปฏิบัติตาม ได้ผลมาจนบัดนี้ ขณะนี้เด็กอยู่ที่วัด ๓๐๐ คน เมื่อคืนให้โอวาทไปแล้ว บอกหนูก่อนไปโรงเรียนไหว้พ่อแม่ ๓ หน ไปถึงโรงเรียนไหว้ครูลัก ครูจำ ครูแนะ ครูนำ ครูพร่ำ ครูสอน พบคนแก่เลี่ยงทาง พบพระนมัสการนะหนูนะ หนูดูเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ราชบุตร ราชธิดา กราบเท้าพระราชบิดา พระราชมารดา กราบเท้าบนสนามหญ้า ๓ ครั้ง มันเป็นภาพที่ซึ้งใจ สอนเด็กมาจนทุกวันนี้นี่ได้จากครูบาอาจารย์ท่านสอนอาตมา



ตอนที่สมเด็จพระราชชนนีศรีสังวาลย์มาเจริญพระกรรมฐานที่วัดมหาธาตุฯ อาตมาก็ขออนุญาตท่านเจ้าคุณอาจารย์ไปฟังสอบอารมณ์ท่านด้วย อาตมาจดจำได้ว่าจะพูดคำลีลากับสมเด็จพระราชชนนีอย่างไร ถามญาณอย่างไร อาตมาได้จากท่านเจ้าคุณอาจารย์ วันนั้นพอดีสมเด็จพระบรมราชินีนาถเสด็จด้วย อาตมาจึงได้แบบได้แผน จดจำมา อีกครั้งหนึ่งมีการรับสัญญาบัตรพัดยศ ท่านหลวงพ่อใหญ่พระพิมลธรรมเป็นเจ้าพิธีในโรงอุโบสถ มีสมเด็จพระวันรัตน์วัดเบญจมพบิตรฯ มาเป็นประธาน อาตมาเป็นคนปูอาสนสงฆ์ จะทำอย่างไร ทำแบบวัดมหาธาตุฯซิ ทั่วราชอาณาจักรต้องยอมตัวในเรื่องความเป็นระเบียบเรียบร้อยของวัดมหาธาตุฯ นั่งก็เสมอกัน ตั้งกระโถนอย่างไร ตั้งอะไรอย่างไร อาตมาได้นำเอาไปใช้ที่วัดมาก ได้แล้ว รักครูอาจารย์ต้องเอาไปใช้ เอาไปเป็นประโยชน์ต่อไป



ท่านอดีตสมเด็จพุฒาจารย์ปลูกให้ลูกศิษย์ได้ดี ขอท่านทั้งหลายจงอนุรักษ์ขนมธรรมเนียมประเพณีของวัดมหาธาตุฯ ไว้ และท่านทั้งหลายเป็นลูกศิษย์ท่านเจ้าคุณอาจารย์ โปรดดำเนินงานให้ถูกต้อง ดำเนินไปในชีวิตเหมือนท่านยังอยู่กับเรา ท่านสิ้นชีวิตไปแล้ว แต่ท่านอยู่กับเราด้วยชื่อเสียง ความรัก โปรดรักษาชื่อเสียง ความรักนั้นให้สมบูรณ์พูนสุขเถิดจะประเสริฐมาก ท่านทั้งหลาย บัดนี้การบำเพ็ญกุศลทักษิณาทานถวายพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านเจ้าคุณอาจารย์ในวันนี้นั้น เราก็มาสักการะ เอาใจใส่ท่านต่อไป มีของดีอะไรช่วยกันเผยแผ่แพร่ขยายคือ สักการะ และเคารพ มั่นใจต่อครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของเราเท่านั้น


อย่ามีครูหลายครู อาจารย์หลายอาจารย์ จะเขว จะเหหัน ไม่เป็นที่หมายตามครูสอนทุกประการ บูชาครูทั้งอามิสบูชาและปฏิบัติบูชา อามิสบูชาคือผ้าผ่อนท่อนสไบ อาหารการกิน หยูกยารักษาโรค ปฏิบัติบูชาหมายความว่า พ่อแม่เราไม่มีทานให้มีทาน ไม่มีศีลให้รักษาศีล ไม่มีภาวนาก็เชิญพ่อแม่มาบำเพ็ญจิตภาวนาเป็นการปฏิบัติบูชา แล้วก็ปฏิบัติบูชาอาจารย์ อย่าทำลายน้ำใจ จงช่วยนำคำสอนไปสอนตน และนับถือญาติ นับถือศิษย์ด้วยกันอย่าแก่งแย่งกันแต่ประการใด จงเชื่อฟังครูอาจารย์สมกับที่เทศน์พระคาถาที่ชี้แจงแสดงมาเป็น ปูชา จ ปูชนียานํฯ ผู้ใดตั้งใจบูชาครูอาจารย์ ตั้งใจบูชาพ่อแม่เป็นพระอรหันต์ เป็นพระพรหมของบุตรแล้ว ผู้นั้นจะเจริญมีมงคลของชีวิต เป็นข้อคิดภาวนาของท่านทั้งหลาย ขอจงดำรงไว้ซึ่งชีวิตเป็นศิษย์อาจารย์เดียวกัน ขอจงสมานฉันท์ปรองดองกันทั้งฝ่ายบรรพชิตและคฤหัสถ์ ท่านอาจารย์มหาสุภาพ อาจารย์มหาบุญชิต และคณะศิษย์ก็ตาม ขอให้ดำเนินการเป็นหัวหน้าและเป็นอาจารย์ใหญ่แทนต่อไป



อาตมาขออำนาจแห่งบุญกุศลทั้งหลาย ที่คณะศิษย์ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์พากันบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายท่านพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณอาจารย์ ถ้าท่านทราบด้วยญาณวิถีอันใด จะปลื้มใจ ปีติ ยินดี ในคณะศิษย์ทั้งหลายที่ดำเนินงานแทนท่านสืบไป ขอกุศลนั้นจงดลบันดาลกลับมาหาคณะศิษย์และท่านทั้งหลาย ที่เสียสละจตุปัจจัยไทยทานมาบำเพ็ญกุศลถวายในวันครบรอบ ๖ ปีในวันนี้นั้น ขอทุกท่านจงได้รับผลคืออานิสงส์แห่งการกระทำทุกประการ ขอจงเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย ๔ ประการ มีอายุขอให้ยืนนาน วัณโณผิวพรรณผ่องใส สุขัง ขอให้สุขภาพอนามัยทุกท่านโปรดได้ใจดี โรคภัยไข้เจ็บมีก็โปรดหาย สิ่งทั้งหลายที่คิดไว้ ณ บัดนี้ และจะคิดต่อในภายภาคหน้า จงพรรณนาให้ประสบความสำเร็จเผด็จผลสมเจตน์จำนงความมุ่งมาดปรารถนาทุกประการ พระธรรมเทศนาที่อาตมาแสดงมาขอยุติไว้เพียงนี้ เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้

=======================





4 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ22.7.53

    พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ท่านสอนดีแท้ๆ

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ9.2.54

    sadhu kha..

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ20.3.54

    น้อมรับด้วยเศียรเกล้าในคำสอนหลวงพ่อ

    ตอบลบ
  4. รังสรรค์ ปิ่นทอง10.2.58

    สาธุ อนุโมทามิ

    ตอบลบ

บทความที่ได้รับความนิยม