Blog นี้สร้างมาเพื่อ เป็นสื่อกลางให้ผู้สนใจในการปฏิบัติ ได้มาศึษาหาความรู้ และ แนะนำสถานที่ปฏิบัติให้แก่ผู้สนใจ และ ช่วยนักปฏิบัติผู้กำลังหลงทาง ให้เจอทางออก และ เข้าถึงซึ่งความเป็นจริงของสภาวะ

9 พฤศจิกายน 2564

ประวัติวัดอโศการาม

 วัดอโศการาม เดิมมีพื้นที่ประมาณ 53 ไร่ เมื่อปีพ.ศ. 2479 – 2498 ซึ่งเป็นบริเวณที่ท่านพ่อลีได้เริ่มก่อตั้งสำนักสงฆ์และชายเลนที่มีความสมบูรณ์เนื่องด้วยภิกษุวัดอโศการาม ได้ถือการอยู่ป่าเป็นแนววัตรปฎิบัติของท่านหลวงพ่อลี จึงให้ความสำคัญกับป่าโดยเฉพาะป่ายชายเลนที่มีความสงบ มีความสมบูรณ์ตามธรรมชาติ ส่วนตอนบนของพื้นที่ซึ่งเป็นที่บกทางวัดก็ได้พยายามสร้างป่าบกด้วยพรรณไม้นานาชนิ



วัดอโศการามตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท
ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมือง
จังหวัดสมุทรปราการ 10280
โทร 0-2389-2299 หรือ

 
ประวัติวัดอโศการาม

นาแม่ขาว เป็นชือตำบลเป็นที่ตั้งของวัดอโศการามปัจจุบัน ตามประวัติที่กล่าวไว้ในหนังสือชีวประวัติ พระสุทธธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์ (พระอาจารย์ลีธมฺมธโร) ความว่า" ที่ตั้งวัดอโศการามปัจจุบันนี้ เดิมเรียกว่า "นาแม่ขาว" เจ้าของที่ดินคือ นางกิมหงษ์ และนายสุเมธ ไกรกาญจน์ ได้ถวายที่ดินให้สร้างวัดเนื้อที่ประมาณ๕๓ ไร่ เมื่อ ปี พ.ศ. ๒๔๙๗ จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๔๙๘ จึงได้เริ่มตั้งสำนักขึ้นเป็นครั้งแรก โดยให้พระลูกศิษย์ คือพระครูใบฎีกาทัศน์ มาเฝ้าสำนักแทน พร้อมกับลูกศิษย์อีก ๕ รูป รวมมีพระที่สำนักนี้ในครั้งเริ่มตั้ง จำนวน ๖ รูป" เมื่อออกพรรษาและได้จัดงานพระราชทานเพลิงศพสมเด็จฯ เรียบร้อยแล้ว เป็นปี พ.ศ. ๒๔๙๘ ท่านพ่อลี จึงได้ออกไปจำพรรษาที่วัดอโศการาม


ในระหว่างนี้ได้เริ่มคิดดำริจัดงานฉลองสมโภช ๒๕ พุทธศตวรรษ ในปีพ.ศ.๒๕๐๐ การดำริในเรื่องนี้ ท่านได้ดำริมานานปีแล้ว คือเริ่มดำริตั้งแต่ปีที่ได้เดินทาง ออกมาจากดงบ้านผาแด่นแสนกันดาร( เชียงใหม่) วัดอโศการาม ได้รับการพัฒนาสืบเนืองมาโดยลำดับ แม้หลังท่านพ่อลีได้มรณะภาพไปแล้ว ( ปี พ.ศ.๒๕๐๔)ได้มีการขยายพื้นที่ออกไป ทางด้านทิศตะวันออก ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของวิหารสุทธิธรรมรังสีในปัจจุบัน พร้อมกันนั้นก็ได้ทำการสร้างพระธุตังคเจดีย์ ที่ท่านพ่อได้วางแบบเอาไว้ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เป็นปูชนียสถานประดิษฐานพระบรมสารีริธาตุ ไว้เป็นที่สักการะของเหล่าเทวดา และมนุษย์ทั้งหลายชือว่า " ธุตังคเจดีย์" เป็นเจดีย์หมู่ ๑๓ องค์วัดอโศการาม เป็นสถานที่ปฏิบ้ติธรรมกัมมัฏฐานภาวนา ที่ท่านพ่อลี ได้วางรากฐานไว้ เหล่าศิษยานุศิษย์ได้ปฏิบัติสืบ ๆ



ชื่่ออโศการาม

     จากหมายเหตุที่ท่านพ่อได้ปรารภไว้ใน หนังสือชีวประวัติของท่าน ความว่า การตั้งชื่อวัดอโศการามนี้ มิใช่ได้คิดขึ้น ในคราวที่ตั้งได้คิดชื่อนี้ขึ้น ตั้งแต่ปีจำพรรษาอยู่ที่ตำบลสารนารถ เมืองพาราณสี ได้เอานามของท่านผู้มีคุณวุฒิ เป็นฉายาลักษณ์ของผู้ทรงคุณ ฉะนั้นจึงได้สร้างพระรูปนี้ขึ้นประกอบในนามของวัด เพื่อเป็นสวัสดิมงคลสืบต่อไป แต่ที่จริงชื่อวัดอันนี้ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์เคยรับสั่งเล่าให้ฟัง อันเป็นสิ่งที่น่ากลัวจะไม่สำเร็จในงานอันนั้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ได้ทำรายงานยืน ไปตามระเบียบการคณะสงฆ์ ก็ไม่มีท่านสังฆมนตรีองค์ใดองค์หนึ่งคัดค้าน ว่าไม่เหมาะสม เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็พอใจ




คำว่า “ อโศการาม ” เป็นคำสนธิเป็นคำ 2 คำ คือ “ อโศก ” ที่แปลว่า “ ไร้ความเศร้า ” กับคำว่า “ อาราม ” ที่มีความหมายว่า “ แหล่งรื่นรมย์ ” เมื่อนำรวมกันแล้วจะได้ความหมายที่ดีคือ แหล่งรื่นรมย์ที่ไร้ความเศร้าหมอง ซึ่งเมื่อก้าวเท้าเข้าสู่ประตูแห่งธรรมะที่มีชื่ออย่าง “ วัดอโศกราม ” แห่งนี้แล้ว ก็คงต้องยอมรับว่าแหล่งนี้เป็น “ แหล่งรื่นรมย์ ” และ “ ร่มรื่น ” ไปด้วยพรรณไม้นานาชนิดไม่ว่าจะเป็นป่าโกงกาง ไม้ลำพู หรือปลงทอง แต่ถึงอย่างไรก็ดี วัดอโศการามนี้ยังแสดงให้เห็นความแตกจ่างจากคำว่า “ อาราม ” จากวัดทั่วๆไป






เมื่อมองไปรอบๆบริเวณวัดแล้ว ความแตกต่างอย่างหนึ่งได้ชัดเจน คือ วัดนี้ไม่มีเมรุเหมือนวัดอื่นๆที่จำต้องมีเพื่อจัดงานฌาปาณกิจให้กับประชาชนทั่วไป เพราะวัดแห่งนี้ไม่รับเผาศพหรือสวดพระอภิธรรมภายในวัดเท่านั้นที่จะได้รับการเผาแบบเชิงตะกอน เพื่อให้ผู้พบเห็นปลงกับสังขารอันไม่เที่ยงของมนุษย์และอีกกิจกรรมหนึ่งที่ทางวัดจะจัดขึ้นเป็นประจำในวันที่ 24 – 26 เมษายนของทุกปี ซึ่งตรงกับวันมรณภาพของหลวงพ่อลี ธมมธโร เจ้าอาวาสรูปแรกของวัดอโศการาม



และเป็นเรื่องแปลกตรงที่งานประจำปีนี้จะปราศจากงานรื่นเริง และมหรสพต่างๆ แต่สิ่งที่มาแทนที่ คือ การวิปัสสนาและการปฎิบัติธรรมของศิษยานุศิษย์ที่เลื่อมใส พิธีการ คือ จะมีการบวชพราหมณ์ในวันที่ 24 เมษายน ในตอนบ่ายโมง และจะมีการอบรมจนึงกลางคืน รุ่งเช้า วันที่ 25 เมษายน จะมีการฉันท์เช้า มีการเทศน์ และทำบุญในโรงงานให้ประชาชนได้เข้ามาทานอาหารฟรีโดยที่ประชาชนในชุมชนได้เข้ามาทานฟรีโดยที่ประชาชนในชุมนจะเป็นผู้ให้ความร่วมมือในการทำบุญ ปัจจุบันได้จัดงานหลวงพ่อลีเป็นปีทที่ 43 แล้วในแต่ละปีนั้นจะมีการนิมนต์พระจากวัดต่างๆมาให้เท่าอายุของหลวงพ่อลี





ลำดับเจ้าอาวาสวัดอโศการาม





ท่านพ่อลี (ธมมธโร) พระอาจารย์ลี เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี เวลา 21.00 น. เดือนยี่ แรม 2 ค่ำ ปีมะเมีย ตรงกับวันที่ 31 มกราคม 2449 บ้านเกิดคือบ้านหนองสองห้อง ตำบลยางโยภาพ อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี หมู่บ้านนี้มีบ้านประมาณ 80 หลังคาเรือน แบ่งออกเป็น 3 คุ้ม คือหมู่บ้านน้อยหนึ่ง หมู่บ้านในหนึ่ง และหมู่บ้านนอกหนึ่ง ที่หมู่บ้านนอกนี้มีวัดตั้งอยู่ พระอาจารย์ลี ได้เกิดในหมู่บ้านที่มีวัดตั้งอยู่ อ่านประวัติทั้งหมด


พระเทพโมลี (สำรอง คุณวุฑโฒ) พระเทพโมลี (กลิ่น) ท่านเกิดเมื่อประมาณปีพระพุทธศักราช ๒๒๘๓ รัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ มีเชื้อสายรามัญ ท่านบรรพชา-อุปสมบท วัดตองปุ อยุธยา สมัยพระเจ้าเอกทัศน์ เมื่อกรุงศรีอยุธยาล่มสลาย ท่านพระมหาศรี พระขุน พระเทพโมลี ครั้งเป็นพระกลิ่น หลบภัยข้าศึก ล่องลงมาทางใต้ ถึงสมัยรัตนโกสินทร์ ท่านและคณะกลับมาอยู่วัดกลางนา(วัดตองปุ หรือวัดชนะ อ่านประวัติทั้งหมด




พระญาณวิศิษฏ์ (ทอง จนทสิริ) " ทะเลไทยทั่วแคว้น แลงาม

วัดอโศการาม พรั่งพร้อม

สันติทุกโมงยาม ตามป่า เลนแฮ

ธรรมชาติยังห้อมล้อม นก-ไม้แลสลอน
 
 
............................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม